หลักการทำงานของ Vacuum Evaporator: การระเหยน้ำเสียภายใต้สุญญากาศเพื่อการบำบัดที่มีประสิทธิภาพสูง

Vacuum Evaporator ทำงานโดยการให้ความร้อนน้ำเสียภายใต้สภาวะสุญญากาศ ซึ่งช่วยลดจุดเดือดของของเหลว ทำให้สามารถระเหยน้ำออกไปได้ในอุณหภูมิต่ำเพียง 35-40°C กระบวนการนี้ช่วยประหยัดพลังงานและลดความเสียหายต่ออุปกรณ์

รายละเอียดกระบวนการ

• การควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม:
  การกลั่นภายใต้สุญญากาศทำให้จุดเดือดของน้ำลดลง ส่งผลให้กระบวนการระเหยเกิดขึ้นในอุณหภูมิต่ำที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

• การนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่:
  ความร้อนที่เกิดจาก วงจรทำความเย็นของปั๊มความร้อน ถูกนำกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการ ช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงาน

• การแยกน้ำบริสุทธิ์ออกจากของเสีย:
  น้ำที่ผ่านการระเหยจะถูกกลั่นเป็นน้ำบริสุทธิ์ (Distilled Water) โดยมีค่าความเข้มข้นของ TDS, BOD และ COD ลดลงได้ถึง 98-99%

• ลดปริมาณน้ำเสียเข้มข้น:
  น้ำเสียที่เหลือจากกระบวนการจะมีความเข้มข้นสูง โดยปริมาณสามารถลดลงได้ถึง 90% จากปริมาณเริ่มต้น

ประโยชน์ของกระบวนการนี้

• ลดค่าใช้จ่าย: ลดปริมาณน้ำเสียที่ต้องจัดการ ช่วยประหยัดต้นทุนในการกำจัดของเสีย
• เพิ่มความยั่งยืน: น้ำกลั่นที่ได้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตหรือปล่อยสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย
• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ช่วยลดการปล่อยมลพิษและปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม

Vacuum Evaporator จึงเป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบำบัดน้ำเสียในอุตสาหกรรมที่ต้องการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสนับสนุนความยั่งยืนในระยะยาว

ประโยชน์ของ Vacuum Evaporator: ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Vacuum Evaporator นำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนสำหรับการจัดการน้ำเสียในอุตสาหกรรม ด้วยข้อดีที่ตอบโจทย์ทั้งด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม

1. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

• ใช้พลังงานน้อยลง ด้วยการทำงานภายใต้สภาวะสุญญากาศและการใช้ ปั๊มความร้อน เพื่อนำพลังงานกลับมาใช้ซ้ำ
• ลดการใช้พลังงานในกระบวนการระเหยและกลั่นน้ำ

2. การปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม

• บรรลุเป้าหมาย Zero Liquid Discharge (ZLD) โดยไม่มีการปล่อยของเสียในรูปของเหลว
• ลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม พร้อมช่วยองค์กรปฏิบัติตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด

3. การกู้คืนทรัพยากร

• ผลิตน้ำสะอาดที่มีค่าความเข้มข้นของ TDS, BOD และ COD ต่ำถึง 98-99%
• กู้คืนวัสดุที่มีค่า เช่น สารเคมีหรือของเหลวเข้มข้น ที่สามารถนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต

4. ลดปริมาณน้ำเสียและสารเคมีเข้มข้น

• ลดปริมาณน้ำเสียที่ต้องส่งกำจัดได้ถึง 90% ช่วยลดต้นทุนการกำจัดและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำเสีย

Vacuum Evaporator จึงไม่เพียงตอบโจทย์ในด้านการลดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยเพิ่มความยั่งยืน และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

สาขาอุตสาหกรรมที่ Vacuum Evaporator เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

Vacuum Evaporator ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการบำบัดน้ำเสียในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีความต้องการเฉพาะตัว โดยมีสาขาอุตสาหกรรมที่สามารถใช้ระบบนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:

1. อุตสาหกรรมเครื่องจักรและเหล็ก

• บำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิตโลหะและเครื่องจักร

2. ผลิตภัณฑ์ลวดโลหะ

• ลดการปนเปื้อนของสารเคมีและน้ำมันจากกระบวนการผลิตลวด

3. อุตสาหกรรมการหล่อโลหะ

• กำจัดน้ำเสียที่มีโลหะหนักและของเสียเข้มข้นจากกระบวนการหล่อ

4. การเคลือบอลูมิเนียมเพื่อพื้นผิว

• บำบัดน้ำเสียจากกระบวนการเคลือบพื้นผิวและขจัดสารเคมีตกค้าง

5. การชุบด้วยไฟฟ้าและการชุบสังกะสี

• ลดปริมาณน้ำเสียที่มีสารเคมีและโลหะจากกระบวนการชุบ

6. การระบายน้ำเสียเป็นศูนย์

• สนับสนุนเป้าหมาย Zero Liquid Discharge (ZLD) เพื่อลดการปล่อยน้ำเสียในทุกกระบวนการ

7. การอบชุบด้วยความร้อน

• บำบัดน้ำเสียจากการใช้สารหล่อลื่นและน้ำหล่อเย็น

8. อุตสาหกรรมยาและเคมีภัณฑ์

• กำจัดสารเคมีตกค้างและบำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิตยา

9. อาหารและเครื่องดื่ม

• ลดปริมาณน้ำเสียที่มีของเสียอินทรีย์จากกระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม

10. เครื่องสำอางและสารสกัดจากพืช

• บำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและสารสกัดจากธรรมชาติ

11. การกำจัดขยะ การขนส่ง และการฝังกลบ

• ลดปริมาณน้ำเสียจากการจัดการขยะและกระบวนการฝังกลบ

12. อุตสาหกรรมการพิมพ์

• บำบัดน้ำเสียที่มีหมึกและสารเคมีตกค้างจากกระบวนการพิมพ์

Vacuum Evaporator คือคำตอบสำหรับการบำบัดน้ำเสียในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการความยั่งยืนและประสิทธิภาพสูงสุดในทุกกระบวนการ