ระบบบำบัดน้ำเสีย สามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมใช้กันในปัจจุบันคือ การเติมออกซิเจนลงไปในน้ำเพื่อลดค่า BOD (Biological Oxygen Demand ) ซึ่งเป็นค่าที่สามารถบอกได้ว่าน้ำมีความสกปรกแค่ไหน โดยระบบบำบัดน้ำเสียที่เราจะพูดถึงในบทความนี้คือ ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมผิวอากาศ (Surface Aerator) ซึ่งเป็นเครื่องมือบำบัดน้ำเสียที่ใช้สำหรับเติมออกซิเจนให้กับน้ำ เพื่อลดค่า (BOD) ในน้ำเสีย ที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือน้ำเสียจากกระบวนการผลิตต่าง ๆ โดยระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมผิวอากาศ ใช้งานได้ดีกับบ่อที่มีขนาดใหญ่และค่อนข้างลึกระดับปานกลาง

ลักษณะการนำเครื่องบำบัดน้ำเสียแบบ Low Speed Surface Aerator ไปใช้งาน

เครื่องมือบำบัดน้ำเสียแบบ Low Speed Surface Aerator หรือที่เรียกว่าเครื่องเติมอากาศผิวนํ้า เป็นเครื่องมือบำบัดน้ำเสียที่มีหลักการทำงานคือ นำออกซิเจนเข้าสู่น้ำ โดยใช้การหมุนของใบพัดที่มีขนาดใหญ่ เชื่อมต่อเข้ากับเฟืองเกียร์ที่ต่อเข้ากับแกนของมอเตอร์ที่มีความเร็วอยู่ที่ 85-110 รอบ/นาที ซึ่งใบพัดของระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมผิวอากาศจะทำหน้าที่ตีน้ำ เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของสิ่งปนเปื้อนในน้ำ หรือที่เรียกว่า Dead Zone และด้วยการหมุนของใบพัดจะช่วยดึงน้ำขึ้นมาสัมผัสกับอากาศ เพื่อรับออกซิเจน ให้ออกซิเจนกระจายตัวลงไปในน้ำ ซึ่งออกซิเจนจะช่วยให้การย่อยสารอินทรีย์ที่เป็นตัวทำให้เกิดน้ำเสีย ถูกย่อยเร็วขึ้น ค่าความสกปรกของน้ำก็จะลดลง และไม่มีการกระเด็นหรือเกิดละอองลอยมากเกินไป โดยการติดตั้งเครื่องเติมอากาศพื้นผิวความเร็วต่ำแบบลอยตัวคือ เพียงแค่นำเครื่องลงไปผิวน้ำแล้วยึดด้วยเชือก หรือลวดสลิง เครื่องจะลอยอยู่ผิวน้ำ ณ ตำแหน่งที่ต้องการ และปรับระดับความลึกของใบพัดที่อยู่ในน้ำได้ ด้วยการปรับเกลียวปรับระดับ จากนั้นก็เปิดสวิตช์เครื่องบำบัดน้ำเสียก็จะทำงานตามต้องการ เครื่องเติมอากาศพื้นผิวความเร็วต่ำแบบลอยน้ำ เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงบำบัดน้ำเสีย ทะเลสาบ แหล่งน้ำในชุมชน และตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น

ซึ่งที่กล่าวไปในข้างต้น เป็นเพียงเครื่องมือบำบัดน้ำเสียรูปแบบหนึ่ง ยังมีระบบบำบัดน้ำเสียแบบ Fliter Press , submersible mixer , เครื่องรีดตะกอน (screw press) , Micro Bubble Pump ซึ่งมีวิธีการบำบัดน้ำเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ดังนั้นควรปรึกษาผู้รับติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่มีความเชี่ยวชาญก่อนเลือกซื้อเครื่องมือบำบัดน้ำเสีย

ข้อดีของระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ Low Speed Surface Aerator

1. เนื่องจากระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ Low Speed Surface Aeratorใช้มอเตอร์เกียร์ที่มีค่า Service Factor ตั้งแต่ 1.8 ขึ้นไป จึงสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

2. ส่วนประกอบภายในของ Low Speed Surface Aerator ทำมาจากวัสดุหลายชนิด และมีการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อใช้บำบัดน้ำเสียโดยเฉพาะ จึงมีความแข็งแรงและใช้งานได้ยาวนาน

3. ระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ Low Speed Surface Aerator ใช้กับบ่อน้ำเสียได้ทุกประเภท ที่มีความลึกตั้งแต่ 1- 5 เมตร

4. หากติดตั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือบำบัดน้ำเสีย จะทำให้ระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ Low Speed Surface Aerator ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. สามารถเติมปริมาณออกซิเจนในน้ำได้ถึง 1.5 KgO2/Hp/Hour ซึ่งทำให้ค่า BOD ลดลงอย่างรวดเร็ว

6. ในสภาพน้ำที่เป็นกรด ระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ Low Speed Surface Aerator สามารถเพิ่มออกซิเจนในน้ำได้ดีกว่าระบบบำบัดน้ำเสียแบบอื่น

7. Low Speed Surface Aerator สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง แต่เราสามารถตั้งเวลาเปิดปิดอัตโนมัติได้ และสามารถควบคุมไฟฟ้าด้วยตู้อัตโนมัติระบบ control ได้

8. ระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ Low Speed Surface Aerator จะติดตั้งในสภาพอากาศแบบไหน ก็ไม่ส่งผลต่อการใช้งาน

9. เคลื่อนย้ายได้สะดวก ไม่ยุ่งยาก ประหยัดพลังงาน เมื่อเปรียบเทียบกับระบบบำบัดน้ำเสียแบบ High Speed Surface Aerator เพราะระบบบำบัดน้ำเสีย แบบ Low Speed Surface Aerator ใช้พลังงานน้อยกว่า ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง

10. ไม่มีเสียงรบกวน ทำงานที่ความเร็วต่ำ จึงให้มีเสียงรบกวนน้อย

ระบบบำบัดน้ำเสีย มีประโยชน์ต่อแม่น้ำ สิ่งแวดล้อม สัตว์น้ำ และสุขภาพของเรา หากท่ากำลังมองหาระบบบำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ สามารถติดต่อได้ที่ Hydrosys เพราะเราเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ระบบบำบัดน้ำเสียทุกประเภท ครอบคลุมความต้องการของท่านแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Low Speed Surface Aerator,Fliter Press , submersible mixer , เครื่องรีดตะกอน (screw press) , Micro Bubble Pump และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจได้ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าแน่นอน

สนใจเครื่องมือบำบัดน้ำเสีย หรือสินค้าอื่นๆ ติดต่อ

ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไฮโดร ซิสเท็ม ซัพพลาย